วันอังคารที่23 มกราคม 2561
บทที่
2 ทฤษฏีที่เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
ทฤษฎีพัฒนาการด้านจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์
พัฒนาการบุคลิกภาพของคนขึ้นอยู่กับการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานทางด้านสรีระ
หรือที่เขาเรียกว่าแรงขับโดยสัญชาติญาณแรงขับโดยสัญชาติญาณ แรงขับ ดังกล่าวมี 3 ประเภท ได้แก่
แรงขับทางเพศหรือความต้องการตอบสนองทางเพศ (libido) แรงขับหรือความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่
(life-preserving
drive) และแรงขับหรือความต้องการที่จะแสดงความก้าวร้าว
(aggressive
drive)
โครงสร้างหลักของบุคลิกภาพ
อิด
(Id) หมายถึง
พลังหรือแรงผลักที่มีมาแต่กำเนิด เป็นสันดานดิบของมนุษย์ที่มีแต่ความต้องการสนองสนองแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด
ฟรอยด์เห็นว่าแรงผลักชนิดนี้มีอยู่ในทารก
อีโก้
(Ego) เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างบุคลิกภาพที่ได้มีการคิดรวบรวมข้อมูลต่างๆ
และมีการวางแผน การรู้จักรอคอย ร้องขอหรืออื่น
ๆ เพื่อให้ได้รับการตอบสนองในสิ่งที่ต้องการ
ซุปเปอร์อีโก้
(Superego)
เป็นส่วนของบุคลิกภาพที่คอยควบคุมหรือปรับการแสดงออกของอิดและอีโก้ให้สอดคล้องกับเหตุผลความถูกผิด
คุณธรรมหรือจริยธรรม
ขั้นตอนของพัฒนาการด้านบุคลิกภาพ
ขั้นที่ 1 ขั้นปาก (Oral
Stages) อายุแรกเกิด –18
เดือน
ขั้นที่
2 ขั้นทวารหนัก (Anal
Stage) เป็นระยะพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กวัย
2 –
3 ปี
ขั้นที่
3 อวัยวะเพศขั้นต้น (Phallic
Stage) เป็นระยะพัฒนาการบุคลิกภาพของวัย
3 – 5 ปี
ขั้นที่
4 ขั้นพัก/ขั้นแฝง (Latency
Stage) เป็นระยะพัฒนาบุคลิกภาพของวัย
5 – 12 ปี
ขั้นที่
5
ขั้นอวัยวะเพศ (Genital
Stage) เป็นระยะสนใจเพศตรงข้าม
วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว
12 ปี
ขึ้นไป
ทฤษฎีพัฒนาการด้านจิตสังคมของอีริคสัน
วัยเด็กเป็นวัยที่สำคัญและพร้อมเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวหากประสบการณ์และสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กดีเด็กจะมองโลกในแง่ดีมีความเชื่อมั่นในตนเองในทางตรงกันข้ามหากประสบการณ์และสภาพแวดล้อมไม่ดีไม่เอื้อหรือส่งเสริมต่อการเรียนรู้ของเด็ก
เด็กจะกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย
ไม่ไว้วางใจผู้อื่น ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
ขั้นพัฒนาการตามทฤษฎีของอีริคสัน
ขั้นที่
1 ความรู้สึกไว้วางใจกับความรู้สึกไม่ไว้วางใจ(Trust
versus Mistrust) ช่วงแรกเกิด
– 1 ปี
ขั้นที่
2 ความรู้สึกเป็นตัวของตัวเองกับความละอายใจและไม่แน่ใจ(Autonomy
versus Doubt or Shame) ช่วง
1 – 2 ปี
ขั้นที่
3 การมีความคิดริเริ่มกับความรู้สึกผิด (Initiativeversus
Guilt) ช่วง
3 – 6 ปี
ทฤษฎีวุฒิภาวะของกีเซล
“วุฒิภาวะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอย่างมีระเบียบ
โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งเร้าภายนอก” กีเซลเชื่อว่าพฤติกรรมของเด็กจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยา
ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมขึ้น การฝึกฝนหรือการเรียนรู้ไม่ว่าลักษณะใดก็ตาม
จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ
ถ้าหากร่างกายยังไม่พร้อมหรือยังไม่มีวุฒิภาวะ
ขั้นพัฒนาการตามทฤษฎีของกีเซล
1.
ทิศทางของการพัฒนาการ (development
direction)- Cephalocaudal -
Proximal distal
2. พัฒนาการมีความสัมพันธ์กันและเกี่ยวเนื่องกัน
(reciprocal
interweaving)
3. พัฒนาการมีการใช้กิจกรรมร่วมกัน
(functional
asymmetry)
4. การพัฒนาต่าง
ๆ เป็นผลมาจากวุฒิภาวะ (individuating
maturation)
ทฤษฎีพัฒนาการด้านการรู้คิดของเพียเจท์
พัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กและพัฒนาการทางสติปัญญา
ตามแนวความคิดของเพียเจท์
ได้อธิบายถึงพัฒนาการทางความคิดและสติปัญญาในความเห็นของเขาว่า
บุคคลสามารถคิด ดัดแปลงความคิดและแสดงความคิดของตนออกมาได้
ย่อมเป็นผลมาจากขบวนการปรับเข้าสู่โครงสร้าง
(assimilation)
และการจัดปรับขยายโครงสร้าง
(accommodation)
โดยผลของการทำงานดังกล่าวจะเกิดเป็นโครงสร้างขึ้น
(schema)
แนวความคิดเกี่ยวกับขบวนการปรับเข้าสู่โครงสร้างและการจัดปรับขยายโครงสร้าง
Assimilation
หมายถึง
การที่เด็กนำเอาสิ่งที่ตนรับรู้ใหม่ๆ เข้าไปผสมผสานกลมกลืนกับความรู้เดิมที่มีอยู่
ซึ่งการรับรู้นี้จะเกิดขึ้นเมื่อเด็กมองเห็นสิ่งใหม่ในแง่ของสิ่งเดิมที่เคยรู้จัก
Accommodation หมายถึง
การนำความรู้ใหม่ที่ได้รับไปปรับปรุงความคิดให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม
ทฤษฎีพัฒนาการด้านการรู้ของเพียเจท์
ขั้นที่
1 ขั้นประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว(Sensorimotor
Stage) อายุแรกเกิด – 2 ปี
ขั้นที่
2 ขั้นก่อนการคิดอย่างมีเหตุผล (Preoperational
Stage) อายุ
2 – 7 ปี แบ่งเป็นสองระยะ
- ระยะที่
1 ขั้นก่อนความคิดรวบยอด (Preconceptual
Thought)
อายุ 2 – 4 ปี
- ระยะที่
2 ขั้นคิดได้เองโดยไม่รู้เหตุผล (Intuitive Thought)อายุ
4 – 7 ปี
ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก
โดยโคลเบอร์กเห็นด้วยว่าพัฒนาการทางการคิดเป็นพื้นฐานของพัฒนาการทางจริยธรรมเช่นเดียวกับเพียเจท์ซึ่งพัฒนาการทางจริยธรรมของบุคคลจะมีลำ
ดับขั้นเช่นเดียวกับพัฒนาการด้านอื่น
ๆและมีแนวคิดว่าพัฒนาการทางจริยธรรมของแต่ละบุคคล
จะแตกต่างกันและมีระยะเวลาของการพัฒนาในแต่ละขั้นต่างกัน
ขั้นพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบอร์ก
ระดับขั้นที่
1 Premoral
หรือ Preconventionalวัย 2 – 10 ปี
มี
2 ระยะ ระยะที่
1 การหลบหลีกการถูกลงโทษ ช่วงอายุ 2 – 7 ปี
ระยะที่
2 การแสวงหารางวัล ช่วงอายุ 7 – 10 ปี
ทฤษฎีพัฒนาการทางความคิดความเข้าใจของบรุนเนอร์
พัฒนาการทางความคิดความเข้าใจ
เกิดจากสิ่งต่อไปนี้
1. การให้เด็กทำสิ่งต่างๆ
อย่างมีอิสระมากขึ้น
2.
การเรียนสัญลักษณ์ที่ใช้แทนสิ่งต่างๆ
3. พัฒนาการทางความคิด
4.
ผู้สอนและผู้เรียนมีความสัมพันธ์กันอย่างมีระบบ
5.
ภาษาเป็นกุญแจของการพัฒนาด้านความคิด
6. การพัฒนาทางความคิด
ลำดับขั้นการสอนอย่างมีเหตุผล
ขั้นที่1
การสอนควรเริ่มด้วยการให้ผู้เรียนสัมผัสสิ่งต่าง
ๆ ที่เรียน
ขั้นที่2 การสอนควรเน้นให้เด็กเกิดการพัฒนาขึ้นเพื่อให้เด็กได้รับรู้อย่างแจ่มแจ้ง
ครูควรเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์หรือเลือกเหตุการณ์ที่เด่นชัดและเป็นรูปธรรมมากกว่านามธรรม
ขั้นที่3 จัดให้มีการอภิปรายระหว่างเด็กในกลุ่มที่เรียนร่วมกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ
เนื้อหาที่เรียนเพื่อให้เด็กใช้ภาษาและเกิดการพัฒนาขั้นรูปธรรม
ประทับตราการเข้าเรียนตรงเวลา
เข้าเนื้อหาบทเรียนทฤษฏีพัฒนาการกับเด็กปฐมวัย
ชมคลิปวิดีโอนักทฤษฏีของการเป็นครูที่ดี
บรรยากาศการเรียนครั้งนี้
สิ่งที่ได้รับในการเรียนครั้งนี้
เรียนรู้เนื้อหาของนักทฤษฏีที่ส่วนเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
ชมคลิปวิดีโอของการเป็นครูที่ดีและการเลี้ยงดูของพ่อแม่จะเลี้ยงลูกอย่างไรให้เติบโตเป็นคนดี
และการเลี้ยงดูลูกในแบบตามใจ ท้ายชั้งโมงได้จับกลุ่มจัดทำเสนองานของนักทฤษฏี
ประเมินตนเอง รอเข้าเรียนตรงเวลา มีความตั้งใจฟังเนื้อหาความรู้ที่อาจารย์บรรยาย แสดงความคิดเห็นในกลุ่ม
ประเมินเพื่อน สนใจ ตั้งใจ และเข้าใจฟังเนื้อหาความรู้ของนักทฤษฏีที่อาจารย์บรรยาย
ประเมินอาจารย์ ชี้แจ้งงานชัดเจน สอนตรงตามเนื้อหา และให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็น
ข้อคิดเห็น
บรรยากาศในห้องเรียนเหมาะสมเอื้อต่อการเรียนการสอน การถาม-ตอบอาจารย์ต่อนักศึกษา
และทำความเข้าใจไปพร้อมกันสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของวิชาคือการที่อาจาร์ฝึกให้แสดงจุดยืนเราว่า
เรามีความคิดเห็นกับเพื่อนหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน แต่ละคาบมีเสนองานเดี่ยวบ้างกลุ่มบ้างเพื่อฝึกทำหน้าที่ปฎิบัติงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น